สำรวจอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น
สามารถพบกับความงดงามทางธรรมชาติของญี่ปุ่นได้ที่ภูมิภาคเหล่านี้
เพลิดเพลินกับการเดินทางสู่ธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจ!
อุทยานแห่งชาติมีเป้าหมายในการปกป้องแหล่งธรรมชาติอันสวยงามของญี่ปุ่น และอนุรักษ์ไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสความสวยสดงดงามเช่นเดียวกับเรา
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ อุทยานแห่งชาติจะถูกกำหนด ปกป้อง และจัดการโดยรัฐบาลภายใต้ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ
การได้สัมผัสธรรมชาติอาจเป็นประสบการณ์บันดาลใจอันล้ำลึกและความเงียบสงบอันน่าประทับใจ อุทยานแห่งชาติ ไม่เพียงแต่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยสัตว์ป่าและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม คุณลักษณะเฉพาะของอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น คือ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ป่าไม้ พื้นที่ทำการเกษตร และหมู่บ้านขนาดเล็ก ท่านสามารถเลือกสำรวจแหล่งธรรมชาติที่อยู่ในสภาพเดิมแม้จะผ่านเวลามายาวนาน และสามารถพบกับทิวทัศน์ที่สวยงามซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นการทำให้ได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ปัจจุบันมีอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 34 แห่งในญี่ปุ่น
ในหมู่อุทยานแห่งชาติเหล่านี้ มี 8 แห่งที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกด้วยหวังว่าจะได้ชื่นชมความงามตามธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ใจในแต่ละฤดูกาล
1. อุทยานแห่งชาติอะกัง-มาซู
วิวอันสวยงามของฤดูกาลต่างๆ ของป่าไม้และทะเลสาบ
ทะเลสาบนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเป็นที่รู้จักในชื่อโกชิคินุมะ (ทะเลสาบ 5 สี) เนื่องจากผิวน้ำจะเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศและมุมมอง หากโชคดี ท่านอาจได้พบกับสัตว์ป่า เช่น กวาง Yezo หรือจิ้งจอกแดงญี่ปุ่น
ฤดูร้อนเป็นฤดูที่เหมาะสมสำหรับการตั้งแคมป์ ปีนเขา และตกปลา ส่วนในฤดูหนาวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สกีและเทศกาลน้ำแข็ง
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
2. อุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมังไท
สปาที่มีทิวทัศน์อันงดงาม อุทยานที่มีภูเขา ทะเลสาบ และลำธารจากภูเขาที่แต่งแต้มสีสันให้ป่าไม้ที่สวยงามบริสุทธิ์
มีการจัดกิจกรรมเที่ยวชมและโปรแกรมเวิร์คช็อปทางธรรมชาติเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น มีกิจกรรมเดินขึ้นเขาต่างๆ ภายในอุทยานเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เส้นทางเดินขึ้นเขานำไปสู่จุดหมายปลายทาง เช่น โออิราเสะ, ยอดเขาฮาจิมังไท/ ช่องเขามิคะเอริ, กระเช้าลอยฟ้าฮักโกดะ/ ทะโมะยะชิ, ซุกะยู/ จิโกกุ นูมะ, สึตะนุมะ และ โกโชกาเกะ ฯลฯ โดยมีระยะเวลาเดินขึ้นเขาตั้งแต่ 1 ชั่วโมงไปจนถึงหลายชั่วโมง
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
3.อุทยานแห่งชาตินิกโก
ทิวทัศน์อันโดดเด่นที่หลอมรวมธรรมชาติและประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน
ศาลเจ้าและวัดที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมโลกและตั้งอยู่บนพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ ช่วงต้นฤดูร้อน ดอกไม้อาซาเลียญี่ปุ่นทำให้พื้นที่สูงแห่งฮัปโปกาฮาระมีสีแดง ขณะที่ใบไม้ที่มองจากสะพานแขวนแห่งหุบเขาเซโตอิให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การล่องแม่น้ำและล่องแพ
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
4. อุทยานแห่งชาติอิเซะ-ชิมา
ศาลเจ้าอิเซะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานร่วม 2000 ปี และเป็นเมืองเกิดของไข่มุกและสาวจ้าวทะเล
มิยากาวะ-ซึซึมิ เป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และในฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมดอกซากุระบานเต็มที่ ในฤดูร้อน ท่านสามารถมาชมไฮแดรนเยีย และยังสามารถพบกับใบไม้ที่หลงเหลือจากฤดูใบไม้ร่วงที่สวนของศาลเจ้าด้านใน มีเกาะขนาดต่างๆ ตั้งอยู่กระจัดกระจายแลดูเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ทะเลชิมายังเป็นที่รู้จักในด้านกิจกรรมสันทนาการทางน้ำ เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าอันเก่าแก่ ธรรมชาติ และการกีฬา ที่รวมกันอย่างลงตัว และเป็นที่กล่าวขานกันว่าเป็นเมืองเกิดของไข่มุกและสาวจ้าวทะเล
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
5. อุทยานแห่งชาติไดเซน-โอกิ
ร่องรอยของเทวตำนานญี่ปุ่น ศาลเจ้าและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ / วัดที่หลงเหลืออยู่
เกาะโอกิและแหลมชิมาเนะเป็นภูมิภาคที่ถูกกล่าวถึงในเทวตำนานของญี่ปุ่น แหลมชิมาเนะเป็นสถานที่สำคัญสำหรับวัฒนธรรมโบราณอิซุโมะ ซึ่งมีซากปรักหักพังเยอะ/ สถานที่อันโด่งดังมากมายที่เกี่ยวกับเทวะตำนานของญี่ปุ่น เช่น ศาลเจ้าอิซุโมะ, ศาลเจ้าฮิโนมิซะกิ และคากา คูเคโด ภูเขาไดเซนได้รับการยกย่องให้เป็นภูเขาของพระเจ้า และมีซากปรักหักพังเก่าแก่มากมาย เช่นเดียวกับศาลเจ้า/ วัด ท่านสามารถมาท่องเที่ยวภูเขาได้ตลอดปี เช่น การมาชมสิ่งแวดล้อมที่เขียวขจีในฤดูใบไม้ผลิ เดินขึ้นเขาในฤดูร้อน มาชมใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง และสกีในฤดูหนาว
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
6. อุทยานแห่งชาติอะโซะ-คุจู
รู้สึกได้ถึงพลังจากภูเขาไฟ และหุบเขาที่น้ำตกไหลรินเป็นทางยาวที่จะช่วยเยียวยา
ปล่องภูเขาไฟอะโซะเป็นหนึ่งในปล่องที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟหายากที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นไฟที่ประทุอยู่ภายในปล่องได้ด้วย ใกล้ๆ กันนั้นมีบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เช่น คุโรคาวะออนเซน และซุเอตาเตะออนเซน ซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับเทศกาลธงปลาคาร์ฟ ท่านจะพบกับหุบเขาที่สวยงามซึ่งเป็นที่ไหลรินของน้ำตกขนาดต่างๆ
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
7. อุทยานแห่งชาติคิริชิมะ-คินโควัน
ไฟปะทุ บ่อน้ำร้อนที่เกิดจากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่
เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเนื่องจากทิวทัศน์ภูเขาไฟที่สวยงามและศาลเจ้าที่มักปรากฏบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์และตำนาน ยังมีหนึ่งในบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อที่สุดในญี่ปุ่น เช่น หมู่บ้านคิริชิมะออนเซน และอิบุสึกิออนเซน ภูเขาจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ดอกมิยามะคิริชิมะจะปกคลุมพื้นดินเป็นสีชมพูในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวสดจากใบสดๆ ในฤดูร้อน สีแดงและเหลืองสดในฤดูใบไม้ร่วง และสีขาวบริสุทธิ์ในฤดูหนาว ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติด้านในของอ่าวคินโค ทำให้ทะเลสงบ ทำให้เหมาะสมสำหรับกิจกรรมสันทนาการทางน้ำ เช่น การเล่นน้ำทะเลและการตกปลา
ปลายทางที่ใกล้ที่สุด
ไปยังสนามบินและสถานีที่ใกล้ที่สุด
8. อุทยานแห่งชาติเกาะเคะระมะ
หนึ่งในทะเลที่สวยที่สุดในโลกชื่อว่า "เคะระมะสีฟ้า"
ทะเลที่เกาะอากะนั้นสวยงามยิ่ง และมีชื่อเสียงมากในหมู่นักดำน้ำ เนื่องจากในฤดูร้อนนั้นเหมาะอย่างยิ่งในการดำน้ำและการเล่นกีฬาทางน้ำอื่นๆ ขณะที่ในฤดูหนาวนั้นนิยมการดูปลาวาฬ ทะเลที่สวยงามแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ และเหมาะกับการดำน้ำตื้น ดอกกุหลาบพันปีสีส้มสดจะบานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนมิถุนายน